วันจันทร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2557

พลังงานทางเลือกใหม่

พลังงานทางเลือกใหม่

นานนับศตวรรษที่น้ำมันดิบเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์และนับวันยิ่งมีความต้องการใช้เพิ่มมากขึ้น ทว่าปัญหาวิกฤติราคาน้ำมันตลอดจนสถานะการเป็นพลังงานที่ใช้แล้วหมดไป รวมทั้งเป็นสาเหตุของปัญหาสิ่งแวดล้อม ทำให้หลายประเทศทั่วโลกคิดค้นพลังงานทางเลือกใหม่ๆ โดยเฉพาะพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อเป็นพลังงานทางเลือกขึ้นมาทดแทน และหนึ่งในนั้นคือ พลังงานจากพืช หรือพลังงานสะอาด
ปตท. ในฐานะบริษัทพลังงานแห่งชาติซึ่งมีภาระหน้าที่หลักโดยตรงในการแสวงหาพลังงานทางเลือกใหม่เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งานในอนาคต จึงมุ่งมั่น คิดค้น และวิจัยเรื่องพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่องโดยเน้นไปที่ผลิตผลทางการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อศึกษาตั้งแต่สายพันธุ์ กระบวนการผลิต และเทคโนโลยีในการผลิตพัฒนาจนเกิดเป็น พลังงานทางเลือกใหม่ เช่น น้ำมันแก๊สโซฮอล์ น้ำมันดีเซลปาล์ม (บริสุทธิ์)น้ำมันจากผลสบู่ดำ (กำลังอยู่ในขั้นตอนการวิจัย) เป็นต้น และปัจจุบันพลังงานทางเลือกใหม่ของคนไทยทั้งประเทศที่นักวิทยาศาสตร์ต่างให้ความสนใจคือ “สาหร่าย” สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวที่มีคุณค่าอเนกอนันต์
สาหร่ายจัดเป็นพืชชั้นต่ำที่มีคลอโรฟิลล์สูง จึงใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณมากเพื่อสังเคราะห์แสง ทั้งยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารไม่ว่าจะเป็นคาร์โบไฮเดรต โปรตีน แร่ธาตุ และวิตามินหลายชนิด ที่สำคัญคือมีน้ำมันในปริมาณมากพอที่จะสกัดออกมาใช้ หากมีการปลูกและการควบคุมตัวแปร รวมถึงสภาพแวดล้อมเป็นอย่างดีจะมีส่วนช่วยทำให้สาหร่ายมีอัตราการเจริญเติบโตเร็วกว่าพืชชนิดอื่นๆ ทำให้เห็นถึงความเป็นไปได้หากนำมาศึกษาเพื่อพัฒนาเป็น “พืชพลังงานทางเลือก” ต่อไปจากการที่คณะนักวิจัยจากสถาบันวิจัยและเทคโนโลยี ปตท.ได้เดินทางไปดูงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศนำร่องการผลิตน้ำมันจากสาหร่ายในฐานะพลังงานทางเลือกใหม่เพื่อมาใช้กับรถยนต์ จึงได้นำองค์ความรู้มาใช้ในการพัฒนาไบโอดีเซลในประเทศไทย โดย ปตท. ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหิดล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี และ BIOTEC ทำการศึกษาวิจัยและพัฒนาการผลิตพลังงานทางเลือกจากสาหร่ายน้ำมันตั้งแต่การคัดเลือกสายพันธุ์ การออกแบบระบบเพาะเลี้ยง และการสกัดน้ำมันรศ. ดร.ประหยัด โภคฐิติยุกต์ อาจารย์ และนักวิจัย ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยพลังงานทางเลือกใหม่มหิดล หนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ได้รับทุนจาก ปตท. เพื่อวิจัยพลังงานทางเลือกผลิตน้ำมันไบโอดีเซลจากสาหร่าย ได้กล่าวถึงการวิจัยในช่วงเริ่มต้นว่า สาหร่ายสีเขียว3 ชนิดที่นำมาทดสอบจะให้น้ำมันประมาณร้อยละ 20 – 30ขณะที่สาหร่ายทั่วไปจะให้น้ำมันเฉลี่ยราวร้อยละ 7 – 14 และสาหร่ายที่โตเร็วก็มักจะให้น้ำมันน้อยกว่าสาหร่ายที่โตช้า คณะวิจัยได้เพาะเลี้ยงสาหร่ายในห้องทดลอง เพื่อหาสภาวะที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งให้น้ำมันมากแล้วจึงขยายลงสู่บ่อเพาะเลี้ยงต่อไป นอกจากนี้ยังพบด้วยว่าสภาพแวดล้อมในประเทศไทยเหมาะแก่การเพาะเลี้ยงสาหร่ายอย่างยิ่ง เพราะภายใน 24 ชั่วโมงสาหร่ายก็เติบโตได้อย่างสมบูรณ์ขณะที่พืชพลังงานทางเลือกอื่นๆ ต้องใช้เวลาเพาะปลูกนานกว่า 6 – 7 ปีจึงจะสกัดน้ำมันได้ รศ. ดร.ประหยัดได้เปรียบเทียบว่าหากเลี้ยงสาหร่ายในบ่อพื้นที่ขนาดเท่ากับพื้นที่ปลูกสบู่ดำ 1 ต้น เป็นเวลา 7 ปี สบู่ดำจะให้น้ำมันร้อยละ 25 ในขณะที่สาหร่ายให้น้ำมันมากถึงร้อยละ 1,000 ปริมาณน้ำมันนี้อาจเพียงพอกระทั่งผลิตเพื่อส่งออกต่างประเทศได้ในส่วนของกรรมวิธีในการสกัดน้ำมันจากสาหร่ายนั้นคณะวิจัยได้นำองค์ความรู้ที่สืบเนื่องมาจากการวิจัยพืชพลังงานรุ่นก่อน โดยวางแนวทางไว้ 5 วิธี ได้แก่ การใช้แรงเหวี่ยงแยกเอาน้ำมันออก การตกตะกอนแยกเอาตัวสาหร่ายออก การใชสารละลายทางเคมีละลายเอาน้ำมันออก การใช้กระแสไฟฟ้ากระตุ้นให้สาหร่ายคลายน้ำมัน และการบีบอัดเพื่อให้คลายน้ำมันอย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ยังเป็นแนวทางที่ต้องศึกษากันต่อไปว่าวิธีใดจะเหมาะสมกับเครื่องยนต์และความต้องการใช้งานของคนไทยมากที่สุด ในทางอ้อม ผลพลอยได้จากการสกัดน้ำมันจากสาหร่าย คือ การนำกากสาหร่ายที่ตกตะกอนไปใช้เป็นวัตถุดิบของผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น อาหารสัตว์ ปุ๋ย ยา เป็นต้น นอกจากนี้สาหร่ายยังเอื้อประโยชน์ในด้านอื่นๆ ทั้งการสร้างงานของเกษตรกรสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน สังคม และประเทศชาติ ลดการพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศ บรรเทาผลกระทบจากวิกฤติราคาน้ำมันที่มีต่อทุกภาคส่วนของสังคม ก่อเกิดการขยายตัวของธุรกิจปิโตรเลียมและธุรกิจอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง
พลังงานทางเลือกใหม่ 3ดร.ส่งเกียรติ ทานสัมฤทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สถาบันวิจัยและเทคโนโลยี ปตท. ได้เคยให้ทัศนะต่อการนำสาหร่ายมาเป็นพืชพลังงานทางเลือกว่า ไม่เพียงยังประโยชน์ในการเป็นพลังงานทดแทน การเพาะเลี้ยงสาหร่ายเป็นจำนวนมากยังช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการเผาไหม้ต่างๆ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีในการช่วยบรรเทาปัญหาโลกร้อนได้ และคาดว่าในอีก 2 – 3 ปีข้างหน้าแวดวงพลังงานของไทยอาจค้นพบพลังงานทางเลือกรูปแบบใหม่ๆที่เอื้อประโยชน์ต่อการใช้น้ำมันของคนไทยทั้งประเทศย่างไรก็ตาม ปตท. ยังคงมุ่งหวังให้พลังงานน้ำมันจากสาหร่ายเป็นพลังงานทางเลือกใหม่ เตรียมพร้อมไว้ใช้ในอนาคต เพื่อให้ประเทศสามารถใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนับสนุนให้ทุกภาคส่วนเกิดการคิดค้นพลังงานทดแทนเป็นทางออกให้กับวิกฤติทางด้านพลังงานในครั้งนี้ จิตสำนึกในการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่าก็เช่นกัน หากโลกต้องประสบภาวะขาดแคลนจนถึงจุดที่มี มนุษย์ทุกคนไม่มีน้ำมันดิบใช้ พลังงานทางเลือกหรือพลังงานสะอาดจาก“สาหร่าย” อาจเป็นหนึ่งทางรอดที่ช่วยเยียวยาเรื่องวิกฤติพลังงานน้ำมันของมนุษยชาติในอนาคต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น